Smart Office นั้นสำคัญในยุคดิจิทัลที่การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว องค์กรต่างมองหาวิธีเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานเพื่อขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโต หนึ่งในกลยุทธ์สำคัญคือการปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำงานแบบดั้งเดิมสู่ออฟฟิศอัจฉริยะหรือSmart Officeและ สมาร์ทออฟฟิศ ไม่ได้เป็นเพียงแค่พื้นที่ทำงานที่ทันสมัย แต่เป็นการผสมผสานเทคโนโลยีล้ำสมัย การออกแบบพื้นที่อย่างชาญฉลาด และวัฒนธรรมองค์กรที่ส่งเสริมการทำงานร่วมกัน เพื่อยกระดับประสิทธิภาพการทำงาน ความพึงพอใจของพนักงาน และความยั่งยืน

Smart Office แท้จริงคืออะไร

SmartOfficeแท้จริงนั้นหมายถึง ออฟฟิศที่ออกแบบมาเพื่อตอบสนองต่อพฤติกรรมการทำงาน เพิ่มประสิทธิภาพ และกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ของพนักงาน โดยใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยอำนวยความสะดวก สร้างพื้นที่การทำงานที่สุขสบายให้กับพนักงานทุกคน บนพื้นฐานแนวคิดแบบ “Happy Workplace” โดยจะมีองค์ประกอบหลักดังนี้

องค์ประกอบหลักของ Smart Office มี 3 ประการ:

  1. People (พนักงานและคณะผู้บริหาร): องค์กรต้องพร้อมที่จะเปลี่ยนแปลงสู่รูปแบบการทำงานใหม่ พนักงานต้องพร้อมเรียนรู้และปรับตัวเข้ากับเทคโนโลยีใหม่ คณะผู้บริหารต้องสนับสนุนและส่งเสริมการเปลี่ยนแปลง

  2. Place (สถานที่ทำงาน): พื้นที่ออฟฟิศต้องได้รับการออกแบบใหม่ให้เหมาะกับรูปแบบการทำงานที่ยืดหยุ่น มีการจัดสรรพื้นที่อย่างชาญฉลาด รองรับการทำงานแบบ Activity-based Working หรือ Agile Working

  3. Technology (เครื่องมือที่ทันสมัย): องค์กรต้องนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ เข้ามาใช้ เช่น Internet of Things (IoT), Cloud Computing, Big Data Analytics, Artificial Intelligence (AI)

ประโยชน์หลักของ SmartOffice มีดังนี้

1. เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน

  • เทคโนโลยีช่วยลดขั้นตอนยุ่งยาก เช่น ระบบจองห้องประชุมออนไลน์ ระบบควบคุมไฟและอุณหภูมิอัตโนมัติ
  • การออกแบบพื้นที่ที่ยืดหยุ่น รองรับการทำงานแบบ Co-working และ Hot Desking
  • เครื่องมือสื่อสารและทำงานร่วมกันออนไลน์ ช่วยให้ทำงานได้ทุกที่ทุกเวลา

2. ประหยัดทรัพยากร

  • ควบคุมการใช้พลังงานอย่างชาญฉลาด เช่น ไฟส่องสว่าง ปรับอุณหภูมิอัตโนมัติ
  • จัดการพื้นที่ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • ลดการใช้กระดาษและอุปกรณ์สำนักงาน

3. สร้างบรรยากาศการทำงานที่ดี

  • พื้นที่ทำงานที่ทันสมัย สะดวกสบาย และปลอดภัย
  • ส่งเสริมการทำงานร่วมกัน และการแลกเปลี่ยนความรู้
  • เพิ่มความพึงพอใจและความสุขในการทำงาน

4. ดึงดูดและรักษาพนักงาน

  • ภาพลักษณ์องค์กรที่ทันสมัย น่าทำงาน
  • สวัสดิการที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่
  • เพิ่มขวัญกำลังใจและความผูกพันกับองค์กร

5. รองรับการทำงานแบบ Hybrid

  • เทคโนโลยีช่วยให้ทำงานจากที่ไหนก็ได้
  • เชื่อมต่อข้อมูลและสื่อสารกับทีมได้อย่างราบรื่น
  • เพิ่มความยืดหยุ่นในการทำงาน

ตัวอย่างเทคโนโลยีที่ใช้ในSmart Office

  • ระบบจองห้องประชุมออนไลน์
  • ระบบควบคุมไฟและอุณหภูมิอัตโนมัติ
  • เซ็นเซอร์ตรวจจับความเคลื่อนไหว
  • ระบบจดจำใบหน้า
  • โต๊ะทำงานปรับระดับได้
  • จอแสดงผลอัจฉริยะ
  • เครื่องมือสื่อสารออนไลน์ เช่น Zoom, Microsoft Teams

อย่างไรก็ตาม การนำSmartOfficeมาใช้ จำเป็นต้องพิจารณาปัจจัยต่างๆ ดังนี้

  • วัฒนธรรมองค์กร
  • งบประมาณ
  • เทคโนโลยี
  • ทักษะของพนักงาน

หากองค์กรสามารถนำSmartOfficeมาใช้ได้อย่างเหมาะสม จะส่งผลดีต่อทั้งองค์กรและพนักงาน

ตัวอย่างการทำSmartOfficeในพื้นที่บริเวณต่างๆ

การจัดรูปแบบ Smart Office นอกจากจะต้องมีการเปลี่ยนรูปแบบการจัดผังที่นั่ง ยังต้องจัดแบ่งพื้นที่ออฟฟิศออกเป็น 3 โซนหลัก โดยการนำเทคโนโลยีเข้ามาบริหารจัดการแต่ละพื้นที่อย่างเหมาะสม ดังนี้

1. โซนสำหรับการทำงาน (Work)

  • โต๊ะทำงานแบบ Flexi-Desk: พนักงานสามารถเลือกโต๊ะทำงานได้อย่างอิสระ โดยไม่ต้องมีโต๊ะประจำ
  • ระบบจองโต๊ะทำงานล่วงหน้า: ช่วยให้พนักงานจองโต๊ะทำงานล่วงหน้าผ่านแอปพลิเคชัน
  • ระบบไฟส่องสว่างอัจฉริยะ: ปรับแสงสว่างให้เหมาะสมกับการทำงาน
  • ระบบควบคุมอุณหภูมิ: ปรับอุณหภูมิให้เหมาะสมกับการทำงาน
  • ตู้เก็บของส่วนตัว: พนักงานสามารถเก็บของส่วนตัวไว้ที่ตู้ล็อกเกอร์
  • ห้องประชุม: ติดตั้งระบบจองห้องประชุมล่วงหน้า อุปกรณ์สำหรับการประชุมทางไกล
  • พื้นที่สำหรับการทำงานร่วมกัน: ออกแบบพื้นที่ให้อำนวยความสะดวกต่อการทำงานร่วมกัน เช่น โซฟา เก้าอี้ โต๊ะ

2. โซนสำหรับการพักผ่อน (Relax)

  • มุมพักผ่อน: ออกแบบพื้นที่ให้ผ่อนคลาย เช่น เก้าอี้โยก โซฟา ต้นไม้
  • ห้องเกม: พนักงานสามารถเล่นเกมเพื่อผ่อนคลาย
  • ห้องนอน: พนักงานสามารถงีบหลับพักผ่อน
  • มุมกาแฟ: พนักงานสามารถชงกาแฟ ดื่มน้ำ

3. โซนสำหรับการพบปะสังสรรค์ (Socialize)

  • พื้นที่ส่วนกลาง: ออกแบบพื้นที่ให้อำนวยความสะดวกต่อการพบปะพูดคุย เช่น โต๊ะ เก้าอี้
  • มุมอาหาร: พนักงานสามารถทานอาหาร พูดคุยกัน
  • ห้องประชุมขนาดใหญ่: รองรับการจัดกิจกรรมต่างๆ เช่น สัมมนา ปาร์ตี้

สรุป

Smart Officeเป็นแนวทางการทำงานยุคใหม่ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ประหยัดทรัพยากร ดึงดูดพนักงาน และสร้างบรรยากาศการทำงานที่ดี องค์กรควรพิจารณาความเหมาะสมของเทคโนโลยีและเตรียมความพร้อมขององค์กรก่อนนำมาใชแ้และSmart Officeยังสามารถนำไปปรับใช้กับออฟฟิศทั่วไปหรือออฟฟิศน็อคดาวน์ อีกด้วย หวังว่าบทความนี้จะทำให้ทุกคนได้ไขข้อข้องใจเกี่ยวกับSmart Officeนะครับ